ประเทศใดมีแสตมป์ใช้เป็นประเทศแรก  สร้างคำถาม

 1,873 view  หมวดหมู่ : คำถามทั่วไป  วันที่สร้าง : 23/07/2011

ประเทศใดมีแสตมป์ใช้เป็นประเทศแรก

แนวคิดเรื่องการใช้แสตมป์เป็นค่าไปรษณีย์ริเริ่มโดยนาย เจมส์ ชาลเมอส์ (James Chalmers) ชาวสกอตแลนด์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2377 (ค.ศ. 1834) ซึ่งความคิดดังกล่าวก็ได้รับการยอมรับต่อมาใน พ.ศ. 2382 ภายใต้การผลักดันของ เซอร์ โรว์แลนด์ ฮิลล์ (Sir Rowland Hill) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2383 ก็ได้ออกแสตมป์ดวงแรกของโลกคือ แสตมป์เพนนีแบล็ค (Penny Black) มีราคาหน้าดวง 1 เพนนี
แสตมป์ หรือ ตราไปรษณียากรเป็นหลักฐานการชำระค่าบริการไปรษณีย์ มักเป็นกระดาษรูปสี่เหลี่ยมเพื่อติดบนซองจดหมาย แสตมป์ที่มีรูปร่างหรือทำจากวัสดุอื่นก็มีปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง


ถ้าชอบบทความนี้ กด Like เลย :ประเทศใดมีแสตมป์ใช้เป็นประเทศแรก

 1,873 view  หมวดหมู่ : คำถามทั่วไป  วันที่สร้าง : 23/07/2011


 ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่




× แจ้งเตือน! เราสนับสนุนทุกความคิดเห็น ที่ ใช้ถ้อยคำสุภาพ ไม่ละเมิดผู้อื่น ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง

เนื้อหาที่เกี่ยวช้อง

  ข่าวการเมืองต่างประเทศพร้อมคำแปล ถามเมื่อ (2013-11-29)   2,635 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 30 วินาที!!)

  ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการได้แก่อะไรบ้าง ถามเมื่อ (2011-07-23)   2,106 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 34 วินาที!!)

  การวิเคราะห์แบบ SWOT Analysis คืออะไร เพื่อวัตถุประสงค์ใดเป็นการวิเคราะห์เรื่องใดบ้าง จงอธิบายให้เป็นที่เข้าใจโดยละเอียด ถามเมื่อ (2012-09-09)   2,102 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 56 วินาที!!)

  ผมร่วงในผู้หญิงเกิดจากอะไร ถามเมื่อ (2011-07-24)   2,007 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 1 นาที)

  ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถามเมื่อ (2011-07-23)   2,083 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 1 นาที)

  driver ลงใหม่ แล้วมีปัญหาใช้ของเก่าดีกว่า ถามเมื่อ (2011-07-31)   1,852 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 2 นาที)

  กินอย่างไรให้อ้วน ถามเมื่อ (2011-09-07)   3,114 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 2 นาที)

  ประเภทข่าวสารคืออะไร ถามเมื่อ (2012-09-23)   2,763 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 2 นาที)

  เช็คความเร็วเน็ต ทำอย่างไรค่ะ ถามเมื่อ (2013-04-29)   2,326 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 3 นาที)

  ชาเขียวมีกี่ประเภท ถามเมื่อ (2011-10-07)   2,558 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 3 นาที)


 

บ้านเดียวกันดอทคอม เว็บถามตอบ รวมทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ ให้ความรู้ ความบันเทิง มีสาระ
www.ban1gun.com