อยากได้ตัวอย่างการเขียนเรียงความเกี่ยวกับอดีตถึงปัจจุบันของตัวเองคะะ
เราได้เคยนำเสนอมาก่อนหน้านี้ถึงวิธีการเขียน Statement of Purpose (SOP) ซึ่งเป็นการแนะนำตัวเองให้มหาวิทยาลัยรู้จัก คุณสามารถอ่านบทความแรกได้ที่ Statement of Purpose (SOP)
ส่วนบทความนี้เรามีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้ SoP ของคุณยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น แม้ว่าการเขียน SoP จะไม่สามารถช่วยให้คุณเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำได้หากเกรดเฉลี่ยของคุณไม่สูงพอ แต่มันก็ช่วยได้บ้างหากเกรดเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยเล็กน้อย
เคล็ดลับ 10 ข้อในการเขียน Statement of Purpose (SoP)
- เขียนเกี่ยวกับตัวคุณล้วนๆ SoP เป็นเรียงความแนะนำตนเอง ถือเป็นครั้งแรกที่คุณแนะนำตัวเองกับมหาวิทยาลัย เขียนเรื่องตัวเองและสิ่งที่คุณเคยทำให้มากๆ ไม่ต้องไปเกริ่นถึงคนอื่น ยกเว้นคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจหรือทำให้คุณตัดสินใจไปเรียนสหราชอาณาจักร อันนี้ก็สามารถพูดถึงได้
- คนอ่าน SoP ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนอ่าน SoP แต่ละมหาวิทยาลัยมีคนพิจารณาใบสมัครไม่เหมือนกัน ในบางครั้งคนที่ดูและเลือกนักศึกษาสำหรับหลักสูตร/คณะอาจจะมีเพียงคนเดียว อาจเป็นอาจารย์หรือคนภายนอกที่ทำหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ก็ได้ พวกเขาเคยอ่าน SoP มาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ฉะนั้นคุณควรเขียน SoP ให้โดดเด่นไม่ซ้ำใครและเป็นตัวเองมากที่สุด
- อย่าใช้ภาษาที่มีความซับซ้อนมากเกินไป ข้อผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นโดยมากคือใช้คำที่ฟังดูดี น่าประทับใจ แต่ไม่เข้ากับประโยคที่เขียน ทำให้เจ้าของภาษาอ่านแล้วแปล่งๆ แถมดูหลอกๆ อีกด้วย เราอยากแนะนำให้ใช้คำที่คุณคุ้นเคยและลืมพจนานุกรมศัพท์หรูๆ ออกไปเลย การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจำเป็นมาก
- เลี่ยงการใช้คำพูดของคนดัง SoP จำนวนมากเริ่มต้นด้วยคำพูดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของใครบางคน ซึ่งการเขียนด้วยวิธีนี้ก็ดี แต่มีนักเรียนใช้กันเยอะแล้ว มันจะดูเหมือนเขียนซ้ำๆ กัน ฉะนั้นควรเน้นไปที่เรื่องของตัวเองและความพยายามของคุณ อย่าพูดถึงเรื่องของคนอื่น แต่หากคุณมีคำพูดเฉพาะตัวที่พิเศษไม่ซ้ำใครและเหมาะกับตัวคุณก็สามารถหยิบยกมาเขียนได้
- เลี่ยงการเขียนบทความขัดแย้ง ปีที่แล้วมี SoP หลายฉบับเขียนเรียงความเกี่ยวกับ ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ เช่น เส้นทางที่คุณเลือกตั้งแต่แรกจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ในความเป็นจริงมีคนจำนวนมากเปลี่ยนเส้นทางในภายหลัง คุณควรเปลี่ยนมาพูดถึงความรู้สึกที่คุณมีต่อหัวข้อหรือประเด็นนั้นๆ จะดีกว่าการบอกข้อเท็จจริงล้วนๆ
- รู้จักวิเคราะห์ การเขียนสิ่งที่คุณเคยทำมาในอดีตเป็นเรื่องง่ายเกินไป คุณควรอธิบายสิ่งที่คุณได้จากประสบการณ์และความเหมาะสมในการเข้าเรียนในหลักสูตร คุณจะต้องตีโจทย์หัวข้อของเรียงความที่ทางมหาวิทยาลัยให้เขียน คราวนี้หล่ะคุณจะได้แสดงศักยภาพของคุณให้มหาวิทยาลัยเห็นสักที
- สั้นและตรงประเด็น ครั้งแรกที่นักเรียนเขียนเรียงความมาให้เราดูที่ บริษัท ส่วนมากจะเขียนมา 2-3 หน้า เราอยากบอกว่าการเขียนมาเยอะๆ ไม่ใช่ว่าจะดีนะคะ ปีๆ นึงเจ้าหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ต้องอ่าน SoP ของผู้สมัครเกือบ 5,000 ฉบับ มีเวลาอ่านฉบับๆ หนึ่งไม่นานนัก พวกเขาอยากเห็นผู้สมัครที่สื่อสารได้ดีและมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องเขียนทุกเรื่องที่คุณเคยทำมาในชีวิต ให้เขียนเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น ประมาณ 1 หน้า หากเขียนยาวเจ้าหน้าที่ก็คงไม่ได้อ่านจนจบ
- เขียนสิ่งที่มหาวิทยาลัยอยากรู้ เจ้าหน้าที่รับนักศึกษาใหม่ต้องการรู้ 3 อย่าง
ความสามารถในการเรียนในหลักสูตร คุณควรเขียนประวัติการศึกษาสักเล็กน้อยหรือไม่ก็ประสบการณ์การทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่คุณสมัครเรียน
สิ่งที่คุณจะให้กับชั้นเรียน การเรียนในสหราชอาณาจักรแตกต่างกับประเทศไทยมาก เพราะที่สหราชอาณาจักรต้องมีการโต้ตอบ ถกเถียง โต้แย้งกันในห้องเรียน ขอแนะนำให้เขียนเล่าประสบการณ์อะไรก็ได้ที่คุณเคยทำในฐานะผู้นำหรือช่วยเหลือผู้อื่น
หลังจากที่คุณเรียนจบแล้วคุณอยากเป็นอะไร ทุกมหาวิทยาลัยต้องการนักเรียนที่จบไปแล้วได้งานที่ดีบริษัทที่มีชื่อเสียงเพราะนี่เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับทางมหาวิทยาลัย แนะนำให้เขียนเล่าแผนการที่สมเหตุสมผลในอนาคตของคุณหลังจากสำเร็จการศึกษา