เรามารู้จักไวรัสโคโรน่ากันเถอะครับ
เรามารู้จักไวรัสโคโรน่ากันเถอะครับ
เรื่องน่ารู้สำหรับโคโรน่าดังนี้
เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย
พบติดเชื้อในมนุษย์ในเดือนธันวาคม 2562
สู่คนในจีน โรคเมอร์ส์(Mers)ในซาอุดีอาระเบียเมื่อปี2555 ที่เกิดจากอูฐแพร่เชื้อไปคน นอกจากนั้นยังมีไวรัสโคโรน่าอีกหลายตัวที่ระบาดในสัตว์แต่ยังไม่ติดต่อถึงคน
หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้มีอาการไอ จาม แล้วมีฝอยละออง น้ำมูกกระเด็นมาจะทำให้ติดเชื้อได้
1. มีอาการทางระบบหายใจ เช่น มีไข้ ไอ จาม หายใจถี่ หายใจลำบาก
2. บางกรณีนอกเหนือจากอาการทางระบบหายใจยังพบเกิดโรคปวดบวมขึ้นด้วย
3. มีอาการทางระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ไตวาย และรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่งผลให้รับมือเชื้อโรคยาก เพราะเชื้อโรคมีการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
โรคเมอร์ส์(Mers) อยู่ที่ 30% โรคชาร์ส(SARS) อยู่ที่ 10% ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้อยู่ที่น้อยกว่า 3%
จะขึ้นอยู่กับอายุ ในเด็ก ความรุนแรงโรคจะน้อยกว่าในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ อาจกล่าวได้ว่าความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามอายุนั้นเอง
ควรรับสถาณการณ์ต่างๆอย่างมีสติ รอบคอบ
จากข่าวที่ออกมาว่าการระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่นี้ เกิดขึ้นเดือน ธันวาคม พศ 2562 ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ห์ ประเทศจีน
พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุต่อเองจนถึง 31 ธันวาคม 2562 จากการติดเชื้อชนิดนี้ยังไม่เคยพบในมนุษย์มาก่อน
และ ทางจีนได้พบว่าไวรัสนี้ เป็นไวรัสโคโรน่า ตระกูลของไวรัสที่เป็นสาเหตุโรคชาร์ลและเมอร์สในอดีต แต่เป็นไวรัสที่พัฒนามา
เป็นตัวใหม่ "2019-nCoV" หรือ "Novel Coronavirus2019" จีนสืบสวนสาเหตุแหล่งแพร่เชื้อที่เมืองอู่ฮั่น กลุ่มติดเชื้อแรกคือคนงานและลูกค้า
ตลาดขายส่งอาหารทะเลฮั่วนาน ซึ่งขายเนื้อสัวต์สิ่งมีชีวิตหลายชนิด จนไปถึงสัตว์ป่า แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามนุษย์ติดเชื้อจากจากสัตว์ชนิดใด
แต่ผลการศึกษานักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลับจีน 2019-nCOv มีรหัสพันธุกรรมที่ใกล้ชิดกับไวรัสโคโรน่าก่อโรคชาร์สและโรคเมอร์ส
มาจากค้างคาวมากที่สุด ในขณะเดียวกันนักวิจัยนานาชาติหลายคนวิเคราะห์ รหัสโปรตีนของ 2019-nCoV ของผู้ป่วยจะคล้ายคลึงกับรหัส
โปรตีนของ 2019-nCoV ที่อยู่ในงูมากที่สุด จึงสันนิษฐานว่าการระบาดของโรคครั้งนี้ มนุษย์ติดเชื้อจากงูในตลาด ...
สรุปว่าจะเป็นค้างคาวหรืองูกันนะคับ ต้องรอดูกันต่อไป
การป้องกันกับสถานการณ์ขณะนี้
1.ควรสวมหน้ากากอนามัย และไม่คลุกคลีผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
2. ล้างมือทุกครั้งเมื่อสัมผัสสิ่งต่างๆ การล้างมือที่ถูกต้องคือล้างจากปลายแขนลงมาถึงมือ
และล้างหลายๆครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสะอาด การล้างมือใช้สบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และไม่นำมือ
มาสัมผัสตา หู จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
3.หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด หรือถ้าต้องไปก็สวมหน้ากากอนามัย
4.ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นหรือเมืองที่มีการระบาด
5.หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต หรือสัมผัสใกล้ชิดสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ที่ป่วยหรือตาย
และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
6.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากเชื้อโรคก่อตัวทางระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัส
7.เวลารับประทานอาหารควรใช้ ช้อนกลาง
8. รักษาร่างกายให้อบอุ่นเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย
9. ช่วงนี้ยังไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศ หากเลี่ยงไม่ได้ก็ปฎิบัติตามข้อที่กล่าวมาอย่างเคร่งครัด
หรือถ้าหลังเดินทางมาถึงประเทศไทยภายใน 14 วัน สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้หรือระบบทางเดินหายใจ
เช่น ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก อาการเบื้องต้นของคนเป็นหวัด ให้สวมหน้ากากอนามัย แล้วรีบไปตรวจ พบแพทย์ทันที
พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
10. หากมีข้อสงสัย ติดต่อสายด่วน 1422 ติดตามข่าวสารตลอดเวลา