ใช้เงินก่อสร้างเท่าไร และใช้เวลาก่อสร้างนานเท่าไร
ณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงการศึกษาด้านเทคนิคและความปลอดภัยของโรงไฟฟ้า และการพิจารณาคัดเลือกเทคโนโลยีและผู้ผลิตโรงไฟฟ้าที่เหมาะสม ในปัจจุบันโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่มีการใช้งานมากที่สุด 3 ประเภท เรียกชื่อตามชนิดและลักษณะของสารระบายความร้อน ได้แก่ แบบน้ำอัดความดัน แบบน้ำเดือด และแบบน้ำมวลหนัก
1.โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน้ำอัดความดัน (Pressurized Water Reactor, PWR) ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบ PWR เดินเครื่อง 265 โรง (66% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 47 โรง (86% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) โรงไฟฟ้าแบบ PWR มี 2 ระบบหลัก คือ ระบบกำเนิดความร้อน (แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์และตัวกำเนิดไอน้ำ) และระบบผลิตไฟฟ้า (กังหันไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ความร้อนในแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์มาจากปฏิกิริยาฟิชชั่นของเชื้อเพลิงยูเรเนียม โดยใช้น้ำเป็นตัวพา/ระบายความร้อน
2.โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน้ำเดือด (Boiling Water Reactor, BWR) ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบ BWR เดินเครื่อง 92 โรง (23% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โรง (8% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) โรงไฟฟ้าแบบ BWR มีระบบระบายความร้อนระบบเดียว โดยใช้น้ำเป็นตัวพา/ระบายความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาฟิชชั่นของเชื้อเพลิงยูเรเนียม
3.โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบน้ำมวลหนัก (Pressurized Heavy Water Reactor, PHWR) ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์แบบ PHWR เดินเครื่อง 45 โรง (6% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โรง (2% โดยกำลังการผลิตไฟฟ้า) โรงไฟฟ้าแบบ PHWR มี 2 ระบบหลัก คือ ระบบกำเนิดความร้อน (แกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์และตัวกำเนิดไอน้ำ) และระบบผลิตไฟฟ้า (กังหันไอน้ำและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ความร้อนในแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์มาจากปฏิกิริยาฟิชชั่นของเชื้อเพลิงยูเรเนียม โดยใช้น้ำมวลหนักซึ่งเป็นของเหลวลักษณะเหมือนกับน้ำแต่มีความหนาแน่นสูงกว่าและดูดนิวตรอนน้อยกว่าน้ำธรรมดา เป็นตัวพา/ระบายความร้อน