ถ้าถ่ายอุจาระแล้วมีเลือดปน เป็นอะไร
ปัญหาถ่ายอุจจาระปนเลือด เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากปัญหาหนึ่ง อาจจะออกเพียงเล็กน้อยหรือออกมากจนกระทั่งช็อคต้องนอนโรงพยาบาลให้เลือดเลยก็มี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค และภาวะเกื้อหนุนอื่นๆ เช่นโรคไตวาย จะทำให้การทำงานของเกร็ดเลือดไม่ปกติ การกินยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่ผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดหัวใจ การกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดในผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ นอกจากนี้ยังมียาบำรุงเช่น โอเมก้า 3 และใบแป๊ะก๊วย เพื่อหวังผลบำรุงสมอง ซึ่งทั้งสองชนิดนี้มีตัวยาที่ทำให้การเกาะตัวของเกร็ดเลือดไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นเมื่อผู้ใดกินยาเหล่านี้เป็นประจำเมื่อมีปัญหาเลือดออกก็จะทำให้หยุดยาก มีการเสียเลือดมากขึ้นกว่าที่ควร จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระวังในการกินยาเหล่านี้
เลือดออกทางทวารหนักอาจมีสาเหตุได้ตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนัก ซึ่งทางการแพทย์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มได้แก่
1. เลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนบน (UPPER GASTROINTESTINAL BLEEDING) เริ่มจากปากจนถึงลำไส้เล็กส่วนต้นตรงบริเวณเส้นเอ็นที่เรียกว่า “LIGAMENT OF TRIETZ” เลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนบน 50 ซี.ซี. อุจจาระจะเป็นสีดำคล้ายเฉาก๊วยและถ้าออกถึง 100 ซี.ซี. จะถ่ายดำนานถึง 5 วัน
2. เลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนล่าง (LOWER GASTROINTESTINAL-BLEEDING) เริ่มจากลำไส้เล็กตรงบริเวณเส้นเอ็นที่เรียกว่า “LIGAMENT OF TRIETZ” จนถึงลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย
ส่วนเลือดออกบริเวณทวารหนักเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่พบบ่อยมากและพบมากกว่าสองกลุ่มข้างต้นเสียอีก แต่ปริมาณที่ออกอาจไม่รุนแรงเท่าสองสาเหตุดังกล่าวข้างต้น และผู้ป่วยมักจะรู้สึกตัวเร็วกว่า เพราะออกเพียงเล็กน้อยก็ทราบแล้ว และรีบไปปรึกษาแพทย์ทันที
โดยทั่วไปเวลาถ่ายอุจจาระปนเลือดหรือเป็นเลือดสดๆ เรามักจะนึกถึงเลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนล่างมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่กฎตายตัวเสมอไป เพราะถ้าเลือดออกจากทางเดินอาหารส่วนบนปริมาณมากๆ เร็วๆ ก็ทำให้เห็นเลือดออกทางทวารหนักเช่นเดียวกัน แตกต่างกันตรงที่ผู้ป่วยจะมีความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว บางท่านมีอาเจียนเป็นเลือดร่วมด้วยจึงมักจะแยกได้ชัดเจน
ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะภาวะเลือดออกทางทางเดินอาหารส่วนล่าง และบริเวณทวารหนักเท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมที่นี้