ถอดคำประพันธ์ ตอน ขุนช้างถวายฏีกา
จุดเทียนสะกดข้าวสารปราย ภูตพรายกระโดดเรือนสะเทือนผาง
สะเดาะดาลบานเปิดหน้าต่างกาง ย่างเท้าก้าวขึ้นร้านดอกไม้
หอมหวนอวลอบบุปผชาติ เบิกบานก้านกลาดกิ่งไสว
เรณูฟูร่อนขจรใจ ย่างเท้าก้าวไปไม่โครมคราม
ข้าไทนอนหลับลงทับกัน สะเดาะกลอนถอนลั่นถึงชั้นสาม
กระจกฉากหลากสลับวับแวมวาม อร่ามแสงโคมแก้วแววจับตา
ม่านมู่ลี่มีแกประจำกั้น อัฒจันทร์เครื่องแก้วก็หนักหนา
ชมพลางย่างเยื้องชำเลืองมา เปิดมุ้งเห็นหน้าแม่วันทอง
นิ่งนอนอยู่บนเตียงเคียงขุนช้าง มันแนบข้างกอดกลมประสมสอง
เจ็บใจดังหัวใจจะพังพอง ขยับจ้องดาบง่าอยากฆ่าฟัน
จะใคร่ถีบขุนช้างที่กลางตัว นึกกลัวจะถูกแม่วันทองนั่น
พลางนั่งลงนบนอบอภิวันท์ สะอื้นอั้นอกแค้นน้ำตาคลอ
โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกเอ๋ย ไม่ควรเลยจะพรากจากคุณพ่อ
เวรกรรมนำไปไม่รั้งรอ มิพอที่จะต้องพรากก็จากมา
มันไปฉุดมารดาเอามาไว้ อ้ายหัวใสข่มเหงไม่แกรงหน้า
ที่ทำแค้นกูแทนให้ทันตา ขอสมาแม่แล้วก็ขับพราย
เป่าลงด้วยพระเวทวิทยา มารดาก็ฟื้นตื่นโดยง่าย
ดาบใส่ฝักไว้ไม่เคลื่อนคลาย วันทองรู้สึกกายก็ลืมตา ฯ
ประมาณว่า พลายงามใช้มนต์สะกดทุกคนให้หลับแล้ว ก็ใช้มนต์สะเดาะกลอนประตูอ่ะ
แล้วก็เดินผ่านแล้วก็ได้กลิ่นดอกไม้ พวกข้ารับใช้ก็กำลังนอนอยู่ก็เดินไปเรื่อยๆ พลางชมมู่ลี่ เครื่องแก้ว
พอถึงเตียงนอนก็เปิดมุ้งดู เห็นนางวันทองนอนกอดอยู่กับขุนช้าง ก็โกรธอยากจะฟันขุนช้างกะว่าจะถึบให้ตกเตียง แต่ก็กล้วจะโดนนางวันทอง แล้วพลายงามก็นั่งลงไหว้แม่พร้อมกับน้ำตาคลอ
แล้วก็รำพัน ว่านางวันทองไม่ควรจากขุนแผนไปเลย แล้วก็ว่าขุนช้างว่าไปฉุดแม่ของตนมา ตนจะล้างแค้น จากนั้นก็ขอขมาและก็คลายมนต์ให้นางวันทอง แล้วนางวันทองก็ตื่น