เทคนิคการขับ Prius ให้ประหยัดในทุกสภาพจราจร  สร้างคำถาม

 7,489 view  หมวดหมู่ : รถยนต์  วันที่สร้าง : 25/02/2014

เทคนิคการขับ Prius ให้ประหยัดในทุกสภาพจราจร

เนื่องจากมีโอกาสได้ลองศึกษาและขับ Prius มาซักระยะเลยขอมาแชร์ประสปการณ์ครับ
อันนี้คือเทคนิคที่ผมเองลองแล้วได้ผลมานะครับเพื่อนๆลองเอาไปใช้ดูครับ

ขับ Prius รถติดๆให้ได้ 20 กิโลลิตร
อุปสรรคในการขับขี่ที่มีผลกับการสิ้นเปลืองเคสนี้มีเรื่องเดียวจริงๆครับคือ ปริมาณแบต
ถ้ารถติดตอนที่มีแบตนั้นแทบจะไม่ใช้น้ำมันเลย ไฟฟ้า 100%
ฟังดูเหมือนจะดีนะแต่ความเป็นจริงขับในเมืองรถติดๆแบตแทบไม่เคยเกิน 3 ขีด
ประมาณว่ารถไหลแปร๊บเดียวพอได้แบตมาหน่อยก็ต้องจอดแระ
แล้วถ้าจอดจนแบตต่ำกว่าสองขีดนะ เครื่องจะติดมาทันทีจังหวะนี้เปลืองสุดๆ
ขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองพุ่ง 10 ตลอดครับ
จากที่ผมลองขับรถติดๆ สถิติที่ทำได้ 6-7 L/100 Km ตลอดครับ
หารออกมาก็อยู่ที่ราวๆ 14 กิโลลิตร
แต่วันนี้ผมค้นพบวิธีขับให้ได้ 4-5 L/100 km หรือ 20 กิโลลิตร Up ครับ
เทคนิคการขับ Prius ให้ได้ 20 กิโลลิตร ในช่วงรถติดๆ
อย่างที่ทราบกันแล้วว่ารถติดๆปัญหาหลักคือแบตไม่พอ
เพราะฉะนั้นจังหวะที่รถไหลเราต้องอัดแบตให้ได้เยอะๆเผื่อไว้ใช้ตอนรถติด
หลายท่านที่เคยขับ Prius คงจะเห็นว่าการขับที่ความเร็วต่ำๆไม่เกิน 60 KM/H
รถจะใช้พลังงานจากแบต 100 % ถ้าไม่นับตอนเร่งอ่ะนะครับ
แล้วในสภาพรถติดๆต่อให้หลุดไฟแดงขับเร็วได้ก็ไม่เกิน 60 KM/H แน่นอน
แล้วจะทำยังไงให้รถใช้เครื่องยนต์ช่วยเพื่อให้ลดการใช้แบตได้ล่ะ
เทคนิคมันอยู่ที่การใช้คันเร่งครับ ตอนออกตัวจะค่อยๆกดคันเร่งลงไปครับ
ให้ความเร็วได้ที่แล้วถอนคันเร่งครับและไอ้ตอนถอนนี่แหละครับสำคัญ
ถ้าเราถอนหมดพอกดลงไปใหม่รถมันเริ่มไหลถ้าความเร็วคงที่ในความเร็วต่ำจะไม่ใช้น้ำมันครับ
ใช้ไฟฟ้าอย่างเดียวสังเกตที่ขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 0 ครับ
ข้อดีคือประหยัดแน่นอนครับแต่ข้อเสียคือแบตหมดเร็วไม่มีเหลือใช้ตอนติดไฟแดงแน่ๆ
วิธีแก้คือตอนออกตัวกดคันเร่งลงไปเลยครับมากน้อยแล้วแต่ว่าโล่งแค่ใหน
เลย Eco Zone ไปไม่เป็นไรแต่อย่าให้เลยไปถึง Power Zone ละกัน
ช่วงที่เราเ่ร่งความเร็วนี้สังเกตุ ขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองขึ้น 10 ครับแต่ไม่เป็นไร
พอได้ความเร็วใกล้เคียงที่เราต้องการแล้วก็ถอนคันเร่งแต่อย่าถอนหมดนะครับ
ถอนขึ้นมาซักให้อยู่ตรงกลางหรืออยู่ก่อนสุด Eco Zone มากน้อยแล้วแต่่ว่าเราต้องการคงความเร็วไว้แค่ใหนถ้าเราสังเกตุตอนนี้ขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองจะไม่ตกลงที่ 0 แต่จะค้างอยู่ช่วง 3-5 ซึ่งตรงนี้ถ้ารถวิ่งไหลไปเรื่อยๆมันจะชาจแบตไปด้วยครับผมเคยลองดูแล้ว
ที่ความเร็วแค่ 30 KM/h ยังชาจได้ครับแต่ ขีดจะอยู่ราวๆ 6-7
ถ้าความเร็วเริ่มตกก็กดคันเร่งลงไปใหม่ ถ้ารถยังไหลได้ก็ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อยรับรอง
จอดแยกหน้ามีแบตไว้ใช้แน่นอนครับ
จากการวัดอัตราการสิ้นเปลืองวิธีนี้ผมลองแล้วออกมาดีกว่าครับถึงตอนรถไหลจะไม่ได้ประหยัดมากแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้แบตต่ำแล้วเครื่องติดมาชาจแบบว่าขีดพุ่ง 10 ตลอด
ทำให้ตัวเลขออกมาไม่ดีครับ
หมายเหตุ
อัตราการสิ้นเปลืองผมดูจากที่คำนวณออกมานะครับไมได้ดูจากการใช้น้ำมันจริงๆ
แต่ยังไงก็คิดว่าไม่น่าจะคลาดเคลื่อนมาก

เทคนิคการขับให้ได้ 3-4 L/100 Km ในถนนโล่งๆ
ต้องขอบอกไว้เลยครับ Prius ถ้าถนนโล่งๆเนี่ยการขับใ้ห้ได้ 4-5 L/100 Km
หรือ 20 กิโลลิตรนี่ถ้าไม่เหยียบสะบั้นหั่นแหลกจริงๆทำได้ไม่ยาก
ขับแบบชิลๆ ทั่วไปๆเหมือนที่ขับๆกันนี่แหละครับไม่ต้องเน้นอะไรมาก
ตัวเลขออกมา ไม่เกิน 5 L/100 Km แน่นอน
แต่สำหรับวันนี้ผมจะมานำเสนอวิธีการขับให้ได้ 3-4 L/100 Km หรือ 30 กิโลลิตร Up
ออกจากบ้านตอนเช้าเช็คลมยางครับ อย่าให้อ่อนมาก
ก่อนออกวอร์มเครื่องซักหน่อยก็ดีตอน Start เครื่องตอนเช้าๆ
เครื่องจะติดขึ้นมาก็ให้ติดไปจนกว่าจะดับค่อยขับออกมาครับ
ทีนี้เทคนิคการขับก็ไม่ยาก ให้ขับโดยการเน้นดูปริมาณแบตคู่กันไปด้วยครับ
เทคนิคอยู่ที่การถอนคันเร่งเหมือนเดิมครับ
ก่อนออกจากบ้านกำหนดความเร็วในใจไว้เลยว่าจะขับที่ความเร็วเท่าไรสำหรับผมก็ 80-110 Km/h ครับ
เริ่มกันเลยครับ ตอนออกตัวก็ปรกติครับค่อยๆกดคันเร่งลงไป
ตอนเร่งสำหรับผมไม่ซีเรียสครับเลย Eco Zone ได้แต่อย่าให้ถึง Power Zone ก็พอ
ถ้าได้ความเร็วใกล้เคียงกับที่เราต้องการแล้วให้ถอนครับ ตอนถอนให้ดูแบตครับว่ามีเยอะมั้ย
ถ้ามีเยอะก็ถอนให้สุดแล้วกดคันเร่งลงมานิดหน่อยแล้วปล่อยไหลครับ ที่ความเร็ว 80-90 Km/h สังเกตขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ 0 หรือไม่ก็ไม่เกิน 2-3 L/100 Km แล้วแต่สภาพถนน
ถ้าความเร็วเริ่มตกก็กดคันเร่งลงไปใหม่ทำสลับไปเรื่อยๆแล้วให้สังเกตุว่าแบตจะค่อยๆลดลงครับเพราะขับแบบนี้รถจะใช้พลังงานจากแบตมากกว่าเครื่องยนต์
เอาล่ะได้เวลาชาจแบตกันแล้วครับผมชอบตอนนี้ที่สุดเพราะเราสามารถทำความเร็วขึ้นไปได้ถึง 110 Km/h เลยทีเดียวเทคนิคก็คือ กดคันเร่งลงไปจนได้ความเร็วที่ต้องการครับ
จากนั้นก็ถอนแต่ไม่ถอนสุดนะครับถอนค้างไว้ให้อยู่ซักกลางๆ แต่ไม่ควรเลย ECO Zone ครับขับแบบนี้ความเร็วสามารถทำได้ที่ 110 Km/h ขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองก็อยู่ราวๆ 3-4 L/100 Km เท่านั้นเองครับ ขับไปชาจแบตไปพอแบตเริ่มเต็มก็กลับไปขับแบบแรกที่ความเร็ว 80-90 Km/h ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อยๆครับ
ถึงจุดหมายทริปนี้ 3.x L/100 Km แน่นอนครับ ผมเคยลองแล้ว ได้ 3.3 แต่ถนนไม่ได้โล่งมากต้องมีเบรคบ้างเร่งแซงบ้างบางช่วงแต่ก็ถือว่าโอแล้วครับ
กับสถิติ 30 กิโลลิตร ที่ความเร็ว 80-110 Km/h สลับกันไปถือว่าไม่น่าเกลียดครับ


ถ้าชอบบทความนี้ กด Like เลย :เทคนิคการขับ Prius ให้ประหยัดในทุกสภาพจราจร

 7,489 view  หมวดหมู่ : รถยนต์  วันที่สร้าง : 25/02/2014


 ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

#1.    แจ่มที่สุด
@ ผมลองแล้วครบ ถนนโล่งๆ ขับมอเตอร์เวย์
90 Km/h วิ่งเลนส์ 2 จากซ้าย
ชาจแบตที่ 110 Km/h ขยับมาเลนส์ 2 จากขวา
ไม่มีใครบีบแตรไล่แน่นอน
ผลที่ได้ 3.2 L/100 Km ครับ

...............................................
#2.    Ken
@ มีเรื่องให้ลองอีกแล้วสิเรา แหะๆ

...............................................
#3.    กมล
@ ผมขับในกรุงเทพ ไม่เคยได้ต่ำกว่า 7 ครับ
แบตไม่เคยเกิน 3 ขีด แบตมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ย

...............................................
#4.    Admin
@ กมล
ลองทำตามที่เค้าบอกดูแต่ในกรุงเทพขับยากจริง
แนะนะให้ลองวิ่ง ตจว ดูครับหาเวลาออกไปลอง
ถ้าลองแล้วยังไม่ดีขึ้นเข้าศูนย์เช็คดูหน่อยก็ดีนะครับ
เผื่อแบตมีปัญหา

...............................................
#5.    T_T
@ ออกตจว ลองแล้วได้ผลจริงครับ
แต่ในเมืองยากอ่ะมันไม่มีช่วงยาวๆ พอที่จะให้ทำแบบนี้ได้อ่ะแประมาณว่าเร่งขึ้นไปยังไม่ถึงด้วยซ้ำก็ต้องจอดแระ
แทนที่จะประหยัดกลับเปลืองกว่าเดิมเพราะอีตอนออกตัวอ่ะกดไปเยอะแถมไม่ได้แบตอีกผมกลับมาขับแบบเดิมดีกว่า แบตหมดก็ปล่อยมันชาจไป

...............................................
#6.    Admin
@ T_T
ถ้ารถติดมากๆช่วงสั้นๆ ซัก 30 Km/h ก็ถอนได้แล้วนะครับได้แบตเหมือนกันแต่จะช้าหน่อย แต่ยังไงซะขับในเมืองถ้าพะวงเรื่องนี้มากก็ไม่ดีครับอันตรายเดี๋ยวไปทิ่มตูดชาวบ้านเค้าได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าเลือกใช้ให้เหมาะสมครับ

...............................................
#7.    เอก
@ เห็นด้วยครับอย่าไปพะวงมากยังไงซะขับในเมือง
ขี้เหร่ๆ ได้ซัก 6-7 ก็ยังอยู่ราวๆ 14 กิโลลิตร
ถือว่าประหยัดอยู่ครับ

...............................................
#8.    หวานเย็น
@ ผมขับนะรถติดๆขีดวัดอัตราการสิ้นเปลืองมีได้ 2 ค่าเท่านั้นแหละครับ คือ
0 ตอนมีแบต
10 ตอนชาจแบต
เฉลี่ยออกมาก็อยู่ที่ 6-7 ก็โอไม่ซีเรียสครับ
ขับปรกติเน้นปลอดภัยไม่เน้นประหยัดมากมาย
เพราะไง Prius ก็ประหยัดกว่ารุ่นอื่นอยู่แล้วไม่ว่าจะขับยังไง

...............................................
#9.    งง อ่ะ
@ อ่านแล้วสับสนอ่ะ
เค้าบอก Prius ขับในเมืองวิ่งช้าๆใช้ไฟฟ้ามันประหยัดกว่าขับทางไกลวิ่งเร็วๆไม่ใช่เหรอ

...............................................
#10.    PTRD
@ งง อ่ะ
อย่างที่บอกแหละครับว่าตัวแปรอยู่ที่แบตครับ
ไม่ว่าคุณจะวิ่งช้าแค่ใหนถ้าไม่มีแบตก็เปลืองครับ
ไม่ใช่แค่เปลืองธรรมดา เปลืองมากๆด้วย
หัวใจของรถไฮบริจคือแบตครับ ขับทางไกลแบตชาจเต็มตลอดช่วยเครื่องยนต์ทำงานได้เต็มที่ประหยัดกว่าแน่นอน

...............................................
#11.    เต๋าเต๋า
@ ผมว่าแบตมันเต็มเร็ว และก็ หมดเร็วไปป่ะ
วิ่งเร็วๆอัดแบตเต็มก้อนเข้าซอยยังไม่ถึงบ้านเลยอ่ะหมดแระ
บ้านผมเข้าซอยประมาณ 2 กิโล รถเยอะิวิ่งได้ไม่เกิน 30
ใช้ไฟตลอดจนแบตหมดก่อนถึงบ้านประจำ
เครื่องติดจนคนแถวบ้านถามว่าใหนบอกว่ารถรุ่นนี้เงียบ
เห็นขับเข้ามาทีไรดังคันอื่นตลอด
แถมดังที่เครื่องด้วยนะไม่ได้ดังที่ท่อ T_T

...............................................
#12.    สับสนๆ
@ ผมเห็น Prius ขับวนขึ้นตึกจอดรถที่ทำงาน
เสียงดังกว่าใครเพื่อนเลยอ่ะ จอดเฉยๆก็ดัง
งงที่หลายๆคนบอกว่าเงียบ

...............................................
#13.    PRIUSA
@ สับสนๆ
สังสัยจะไปเจอตอนแบตเค้าหมดครับ
ว่าแต่ขับวนขึ้นจอดรถชั้นใหนเหรอครับ
ถึงได้แบตหมดทุกวันขนาดนั้น T_T


...............................................
#14.    Away time
@ ขับออกจากตจว.ทุกอาทิตย์ค่ะ
ตอนนี้ได้ที่ 4.6L/100 Km
ความเร็ว ไม่เกิน110Km/h

...............................................
#15.    คนใช้ Prius
@ ผม OK นะครับถ้าวิ่งใกลๆ ทางโล่งๆ มันประหยัดจริง
แต่พอเจออุปสรรคเข้าหน่อยนี่มันไม่ใช่อย่างที่คิด
โดยเฉพาะเรื่องการปั่นไฟเข้าแบตในจังหวะที่ไม่ควรจะทำ
อาจเป็นด้วยเหตุผลทางเทคนิคหรืออะไรไม่รู้อ่ะนะ แต่ในฐานะผุ้ใช้งานที่ไม่ได้รู้อะไรมากแล้วมันก็ไม่เข้าใจว่า...

ทำไมต้องมีระบบเอาน้ำมันมาปั่นไฟด้วย !!!!!
เปลืองมากๆ วัดขีดดูได้เลยถ้ากลัวแบตหมดก็ตัดเข้าน้ำมันเต็มรูปแบบเลยได้มิ แล้วรอรถวิ่งก่อนค่อยชาจแบบปรกติ
แล้วตอนแบตเหลือน้อยๆ อ่ะรถวิ่งช้าๆติดแหงกๆก็ไม่ต้องเอามาใช้ก็ได้ตัดเข้าน้ำมันเต็มๆไปเลยแล้วก็ค่อยๆ ชาจไปเรื่อยๆ พร้อมเมื่อไรก็ค่อยเอาแบตมาใช้

อย่างกรณีขับขึ้นลานจอดรถบนตึกนะตอนที่แบตเหลือต่ำกว่าสองขีดอ่ะรำคาญมากๆ ลำพังเยียบขึ้นเนินก็พอแรงแระ
ยังต้องมาทนกับเครื่องปั่นไฟอีก T_T ปั่นอยู่นั่นแหละ ขับวน 7ชั้นถึงที่จอดมันก็ไม่เห็นจะได้แบตเพิ่มมาซักกะขีด

บ่นๆๆๆ สรุปเลยนำสำหรับผมตัดออกไปเลยอีระบบปั่นไฟเนี่ยแล้วหาทางแก้ทางอื่นจะดีมากๆ

...............................................
#16.    Prius แท้
@ ในความเห็นส่วนตัวนะครับ
Prius หัวใจสำคัญอยู่ที่ แบต ซึ่งตอนนี้ผมว่าความจุมันน้อยไปหน่อยทำให้ เต็มเร็ว และ หมดง่าย Prius จังเหมาะกับการวิ่งจริงๆวิ่งยาวๆ ใกลๆ ทำความเร็วได้ต่ำๆ ก็ 60 อัฟกำลังดี แบตก็ชาจไปใช้ไปตลอดทางไม่มีหมดทำให้ประหยัดน้ำมัน

แต่ถ้ามาเจอสภาพรถติดๆ อย่างใน กทม หรือเมืองใหญ่ๆตอนแรกผมก็คาดหวังไว้มากว่า Prius นี่แหละคือคำตอบรถจอดติดขยับทีละนิดใช้แบตอย่างเดียวสบายแต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เมื่อ Prius แบตหมดตอนรถติดๆ วิ่งไม่ได้แบตก็ไม่ชาจเข้าแล้วพอแบตต่ำมากๆ ก็ใช้น้ำมันมาปั่นไฟเข้าแบตตามที่ท่านก่อนนั้นได้เม้นไว้ทำให้เจอ สองเด้ง

...............................................
#17.    ช่างสังเกตุ
@ สังเกตุมั๊ยครับว่า สภาพพื้นผิวถนน มีผลกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน มากๆ 2-3 L / 100 km เท่านั้น

ผมลอง วิ่งถนนคอนกรีต ในกทม ตอนที่โล่งๆ วัดได้ประหยัดมากๆ แต่ ถ้าเป็นถนนนยางมะตอยนอกๆ เมืองหน่อย โล่งๆ เหมือนกันแต่กินน้ำมันเยอะกว่า แบบว่าคนะลเรื่องเกือบๆ สองเท่าเลยทีเดียว

...............................................
#18.    Pinarius
@ ต้องเอาไปลองดูมั่งแระ
ขอบคุณมากๆ ครับ

...............................................
#19.    ประหยัดยังไง
@ ขับทางใกล เห็นผลจริงๆ ครับ
แต่ขับในเมื่องรถติดๆ ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี T_T
แบตไม่เคยเกิน 3 ขีด บางวันกินไปซะ 7-8 อ่ะ

...............................................
#20.    งงตัวเอง
@ หรือแบตเริ่มเสื่อม 55+

...............................................
#21.    เอก
@ แบตเค้ารับประกัน 10 ปีครับหายห่วง

...............................................
#22.    น่าคิด
@ 10 ปีที่ว่านี่ไม่แน่ใจครับว่าประกันอะไรบ้าง
ต้องแบบว่าใช้กันให้พังไปข้างนึงหรือเปล่าถึงจะ เคลมได้
แต่ก็อดสงสัยเหมือนเราใช้แบตมือถือ หรือ Notebook อ่ะ มันก็ไม่ได้ถึงกับพังหรอกนะแต่มันก็เสื้อมไปเรื่อยๆ อ่ะตอนซื้อมาใหม่ๆมันก็อึดทน แต่พอ หลายปีไปก็เสื่อม

แล้วแบตไฮบริจมันจะเป็นแบบนี้เหมือนกันมะ แล้วถ้าเป็นเราจะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้มันเริ่มเสื่อม แล้วถ้ารู้ว่ามันเสื่อมเราจะเครมได้มะ ผมว่ามันซีเรียสนะเพราะความจุ ความอึดของแบตนี่มันคือหัวใจของรถไฮบริจเลยนะ มีผลโดยตรงกับการอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันด้วย

...............................................
#23.    Choompon
@ ทำไมราคาpriusมือสองรถประมาณ2ปีราคาถึงตกมากครึ่งต่อครึ่ง

...............................................



× แจ้งเตือน! เราสนับสนุนทุกความคิดเห็น ที่ ใช้ถ้อยคำสุภาพ ไม่ละเมิดผู้อื่น ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง

เนื้อหาที่เกี่ยวช้อง

  5 วิธีง่ายๆ ให้รถของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถามเมื่อ (2015-08-30)   2,559 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 183 นาที)

  รถชน ถามเมื่อ (2011-12-31)   2,955 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 388 นาที)

  รถ อีโค กับ ไฮบริจ อันใหนประหยัดกว่ากัน ถามเมื่อ (2012-04-20)   2,552 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 388 นาที)

  รถ ไฮบริจ ประหยัดน้ำมัน มากแค่ใหน คุ้มมั้ยกับราคาที่แพงกว่า ถามเมื่อ (2012-04-20)   2,335 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 407 นาที)

  รถไฟฟ้า ปะทะ บิ๊กไบต์ Citroen Survolt vs Agni Z2 เทห์ฝุดๆ ถามเมื่อ (2014-08-20)   3,152 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 443 นาที)

  xterra off road ถามเมื่อ (2013-07-16)   2,063 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 584 นาที)

  ไฟ daylight คืออะไรครับ ถามเมื่อ (2014-06-11)   3,103 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 679 นาที)

  ไฟ DRL คือไฟอะไร มีประโยชน์อย่างไร ถามเมื่อ (2012-12-12)   3,928 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 679 นาที)

  ตาราง เติมลมยาง รถยนต์ ขอแบบหลายๆ รุ่นครับ ถามเมื่อ (2012-07-24)   3,134 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 818 นาที)

  จะซื้อรถยนต์หนึ่ง หรือมือสองดี ครับ ถามเมื่อ (2011-08-12)   2,354 views  (ดูล่าสุดเมื่อ 850 นาที)


 

บ้านเดียวกันดอทคอม เว็บถามตอบ รวมทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ ให้ความรู้ ความบันเทิง มีสาระ
www.ban1gun.com